การแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาด vgk.sys (Intel CPU เจนเนอเรชันที่ 13 และ 14)

หากคุณประสบปัญหา BSOD (จอฟ้า) ที่เกิดจากไดรเวอร์ vgk.sys และคุณใช้ CPU ของ Intel เจนเนอเรชั่น 13 หรือ 14 คุณสามารถดำเนินการบางขั้นตอนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้

อัปเดต BIOS ของคุณ

โปรดทำขั้นตอนนี้ก่อนขั้นตอนอื่น ๆ!

ผู้ผลิตหลายรายได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของพวกเขาแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะลองทำขั้นตอนอื่น ๆ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้งการอัปเดตล่าสุดสำหรับเมนบอร์ด/หน่วยประมวลผลของคุณ เมื่อคุณทำการอัปเดตแล้ว ให้เข้าไปยัง BIOS แล้วเลือกการตั้งค่าตามรายการด้านล่าง เพียงเท่านี้คุณก็เสร็จสิ้นแล้ว

MSI

หลังจากอัปเดต ให้เข้าไปใน BIOS ของคุณแล้วเลือก Intel Default Settings (การตั้งค่าเริ่มต้นของ Intel)

ASUS

หลังจากอัปเดตแล้ว ให้เข้าไปใน BIOS ของคุณแล้วเลือก Intel Baseline Profile (โปรไฟล์ค่าพื้นฐาน Intel)

Gigabyte

หลังจากอัปเดตแล้ว ให้เข้าไปใน BIOS ของคุณแล้วเลือก Intel BaseLine (ค่าพื้นฐาน Intel)

การแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม

คุณควรทำขั้นตอนต่อไปนี้ หากคุณได้อัปเดตเฟิร์มแวร์ และเรียกคืนการตั้งค่าพื้นฐาน/ค่าเริ่มต้นตามที่ระบุไว้ข้างต้น แต่คอมพิวเตอร์ของคุณยังคงหยุดทำงาน และเกิดข้อผิดพลาดเดิมขึ้น

Intel XTU

ติดตั้ง Intel XTU และลดตัวคูณ Performance Core ของคุณจาก 55x เป็น 54x หรือ 53x เกมของคุณอาจหยุดทำงานหนึ่งครั้งหลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้ และคุณจะต้องบันทึกโปรไฟล์เอาไว้เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะยังคงอยู่ โปรดทราบว่านี่เป็นหนึ่งในวิธีที่เร็วที่สุดในการแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องเข้า BIOS ของคุณ

การปรับเปลี่ยนการตั้งค่า BIOS ทั่วไป

ปิดการใช้งานโอเวอร์คล็อก

ปิดการตั้งค่าใด ๆ ที่สนับสนุนการโอเวอร์คล็อก รวมถึงการโอเวอร์คล็อกด้วย "AI" หรือแบบ "อัตโนมัติ" BIOS บางรายการจะเปิดใช้การโอเวอร์คล็อกเป็นค่าเริ่มต้น ดังนั้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้เลือกการตั้งค่าเหล่านี้ด้วยตนเอง นี่ก็เป็นเรื่องคุ้มค่าที่จะตรวจสอบ เข้าไปที่ ark.intel.com ก่อน เพื่อดูว่าขีดจำกัดที่แนะนำสำหรับหน่วยประมวลผลของคุณอยู่ที่เท่าไร

เนื่องจากทุก BIOS จะใช้ชื่อที่แตกต่างกันสำหรับการตั้งค่าการโอเวอร์คล็อก ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คุณควรมองหา:

ขีดจำกัดพลังงาน

• SVID Behavior  → Auto
• Long duration power limit หรือ Processor Base Power  → ลดเหลือ 125W
• 13900/14900 CPU เท่านั้น: Short duration power limit  → ลดลงเหลือ 253W

โหมด "Enhanced"

• Enhanced Turbo หรือ Enhanced Multithreading  → Disabled
• ASUS MultiCore Enhancement → Disabled (ไม่ใช่ Auto)
• ASUS Performance Enhancement 3.0 → Disabled

Maximum Clock Rate (อัตราการส่งสัญญาณนาฬิกาสูงสุด)

• maximum P core multiplier → ลดจาก 55x เหลือ 54/53x
• maximum turbo boost clock rate  → ปรับลดลง
• thermal velocity boost → ปิด/ปรับลดลง

ขั้นตอนเฉพาะสำหรับเมนบอร์ด

ASUS

หลังจากที่ลองแต่ละวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้ อย่าลืมเรียกใช้การทดสอบ XTU และดูว่าทดสอบ AVX2 ผ่านหรือไม่ จากนั้น เรียกใช้งานเกม Riot ที่เกิดข้อผิดพลาด และดูว่ายังพบปัญหาอยู่หรือไม่

1. เข้าไปยัง BIOS ของคุณ
2. เลือก ADVANCED (F7)- SVID Behavior
3. เปลี่ยนเป็น Intel's Fail Safe
4. รีบูทคอมพิวเตอร์ของคุณ

Gigabyte

หลังจากที่ลองแต่ละวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้ อย่าลืมเรียกใช้การทดสอบ XTU และดูว่าทดสอบ AVX2 ผ่านหรือไม่ จากนั้น เรียกใช้งานเกม Riot ที่เกิดข้อผิดพลาด และดูว่ายังพบปัญหาอยู่หรือไม่

วิธีแก้ปัญหา A:

1. เข้าไปยัง BIOS ของคุณ
2. เลือก ADVANCED MODE
3. ในแท็บ Tweaker ให้มองหา CPU Vcore และเลือกตัวเลือก Normal
4. เลือก Dynamic Vcore (DVID) และเปลี่ยนจาก "Auto" เป็น "+0.005V"
5. เพิ่ม DVID ขึ้น +0.005
6. รีบูทคอมพิวเตอร์ของคุณ

วิธีแก้ปัญหา B:

1. เข้าไปยัง BIOS ของคุณ
2. เลือก ADVANCED MODE
3. ในแท็บ Tweaker ให้ไปที่ Advanced Voltage Settings แล้วเลือก CPU/VRAM Settings
4. ปรับ CPU Vcore Loadline Calibration เริ่มจาก Low และปรับไปเป็น Medium จนกว่าระบบจะเสถียร
5. รีบูทคอมพิวเตอร์ของคุณ

MSI

หลังจากที่ลองแต่ละวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้ อย่าลืมเรียกใช้การทดสอบ XTU และดูว่าทดสอบ AVX2 ผ่านหรือไม่ จากนั้น เรียกใช้งานเกม Riot ที่เกิดข้อผิดพลาด และดูว่ายังพบปัญหาอยู่หรือไม่

วิธีแก้ปัญหา A:

1. เข้าไปยัง BIOS ของคุณ
2. เลือก OC > Advanced CPU Configuration
3. เปลี่ยน CPU Lite Load Control เป็น Intel Default
4. รีบูทคอมพิวเตอร์ของคุณ

วิธีแก้ปัญหา B:

1. เข้าไปยัง BIOS ของคุณ
2. เลือก OC > CPU Core Voltage Mode > Offset Mode
3. ปรับค่า +(By PWM) จนกว่าระบบจะเสถียร (ห้ามเพิ่มขึ้นเกิน 0.025V ในแต่ละครั้ง)
4. รีบูทคอมพิวเตอร์ของคุณ

วิธีแก้ปัญหา C:

1. เข้าไปยัง BIOS ของคุณ
2. เลือก OC > DigitALL Power
3. เปลี่ยน CPU Loadline Calibration Control เริ่มด้วย Mode 7 และลดระดับไปเรื่อย ๆ จนกว่าระบบของคุณจะเสถียร
4. รีบูทคอมพิวเตอร์ของคุณ