หากคุณทำตามแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบทีละขั้นตอนนี้ เมื่อคุณอ่านจนจบ คุณก็น่าจะกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค และสามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ หรือเข้าใกล้ความช่วยเหลือจากฝ่ายช่วยเหลือของเรามากขึ้น หากคุณยังประสบปัญหาหลังจากทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ คุณสามารถส่งคำร้องมาหาเราโดยใช้ปุ่มที่ด้านล่างของหน้านี้!
สลับไปเป็นการเชื่อมต่อผ่านสาย
การเชื่อมต่อแบบไร้สายมักจะทำให้เกิดความยากในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากการแทรกแซงที่อาจเกิดขึ้นได้จากสิ่งแวดล้อมและสัญญาณวิทยุอื่น นี่มักทำให้เกิดอาการหน่วงฉับพลันและ/หรือการสูญเสียแพ็กเก็ตข้อมูลได้ เพื่อกำจัดปัจจัยเหล่านี้ระหว่างการหาวิธีแก้ไขปัญหา หากทำได้ เราขอแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อผ่านสายแลน (อีเธอร์เน็ต)
อย่าใช้การเชื่อมต่อจากพร็อกซีหรือ VPN
โปรดตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้ใช้งาน VPN หรือพร็อกซีอยู่เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เกม เนื่องจากมันจะก่อให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้คืนได้!
ควรใช้ VPN เพื่อทดสอบเส้นทางของการเชื่อมต่อของคุณในกรณีเฉพาะจริง ๆ และต้องมีการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคเท่านั้น
การตั้งค่า DNS ของคุณ
เปลี่ยนเป็นระบบชื่อโดเมนสาธารณะ
Launcher ของเกมใช้ชื่อเซิร์ฟเวอร์แฝงที่มีปัญหาในการเชื่อมต่อกับค่าตั้งต้นของตัวจัดการระบบชื่อโดเมนสาธารณะของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ในบางบริษัท หาก Launcher ของคุณไม่ยอมเริ่มดาวน์โหลดแพตช์สักที คุณอาจจะต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่ายของคุณเป็นเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะ โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับผู้เล่นนอกสหรัฐอเมริกา
การเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหากับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหากคุณมีการตั้งค่าเครือข่ายเฉพาะเจาะจงเพื่อจุดประสงค์อื่น ขอให้เตรียมพร้อมเปลี่ยนกลับไปการตั้งค่าเดิม และบันทึกข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่คุณกำลังจะเปลี่ยนไว้ด้วย
- กดปุ่ม Windows 🪟
- พิมพ์ Control Panel
- กด Enter
- เลือก Network and Internet
- เลือก Network and Sharing Center
- เลือก Change Adapter Settings ในแผงควบคุมด้านซ้าย
- คลิกขวาที่อะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณ
- เลือก Properties
- เลือก Internet Protocol version 4 (TCP/IPv4)
- เลือก Properties
- ไปที่ด้านล่างของเมนูและเปลี่ยนจาก Obtain DNS server address automatically เป็น Use the following DNS server addresses:
- ใส่ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้ หนึ่งที่อยู่ต่อช่องว่างหนึ่งช่อง:
- 8.8.8.8
- 8.8.4.4 - กด OK บันทึกรายการที่เลือก
- ปิดเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั้งหมด
- กดปุ่ม Windows 🪟
- คลิกขวาที่จุดใดก็ได้
- คลิก All apps
- คลิกขวาที่ Command Prompt และเลือก Run as Administrator
- พิมพ์ ipconfig /flushdns และกด Enter
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ
- กดปุ่ม Windows 🪟
- พิมพ์ Control Panel
- กด Enter
- เลือก Network and Internet
- เลือก Network and Sharing Center
- เลือก Change Adapter Settings ในแผงควบคุมด้านซ้าย
- คลิกขวาที่อะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณ
- เลือก Properties
- เลือก Internet Protocol version 4 (TCP/IPv4)
- เลือก Properties
- ไปที่ด้านล่างของเมนูและเปลี่ยนจาก Obtain DNS server address automatically เป็น Use the following DNS server addresses:
- ใส่ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้ หนึ่งที่อยู่ต่อช่องว่างหนึ่งช่อง:
- 8.8.8.8
- 8.8.4.4 - กด OK บันทึกรายการที่เลือก
- ปิดเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั้งหมด
- กดปุ่ม Windows 🪟
- พิมพ์ command prompt
- กด Enter และเลือก Run as Administrator
- พิมพ์ ipconfig /flushdns ใน Command Prompt
- กด Enter
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ
- คลิกไอคอน Apple ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ
- เลือก System Preferences
- ดับเบิลคลิกที่ Network
- เลือก การเชื่อมต่อที่เปิดใช้อยู่ด้านซ้าย
- คลิกปุ่ม Advanced... ที่มุมขวาล่าง
- คลิก DNS จากแถบตัวเลือก
- นำตัวเลข DNS ปัจจุบันทั้งหมดออก และใส่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้:
- 8.8.8.8
- 8.8.4.4 - กด OK ตามด้วย Apply เพื่อบันทึกรายการที่เลือก
การปล่อย/เพิ่มใหม่ IP และการ Flush DNS (Windows)
- เปิดปุ่ม Windows 🪟 ขึ้นมา
- พิมพ์ cmd
- กด Enter และเลือก Run as Administrator
- พิมพ์ ipconfig /release ใน Command Prompt
- กด Enter
- พิมพ์ ipconfig /renew
- กด Enter
- พิมพ์ ipconfig /flushdns
- กด Enter
- ปิด Command Prompt และลองเชื่อมต่อดูอีกครั้ง
การตั้งค่าการอนุญาตของคุณ
อัปเดต Windows
เพื่อให้แน่ใจว่า Windows ของคุณอยู่ในเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ ให้ค้นหา "Windows Update" ในหน้าเมนู Start เพื่อใช้งานโปรแกรม
ปิดการใช้งาน UAC
- กดปุ่ม Windows 🪟
- พิมพ์ UAC
- กด Enter
- เลือก Change User Account Control settings
- เลือกตัวเลือก Never notify ในกล่องการตั้งค่า UAC
- กด OK
เรียกใช้งานไคลเอนต์ Riot ในฐานะผู้ดูแลระบบ
- คลิกขวาบนปุ่มลัดไคลเอนต์ของ Riot
- เลือก Properties
- ไปที่แท็บ Compatibility
- ทำเครื่องหมายถูกที่ตัวเลือก Run as administrator
หมายเหตุ: การเรียกใช้ .exe ของเกม (นี่คือปุ่มลัดเกมในโฟลเดอร์การติดตั้งของคุณ) ในฐานะผู้ดูแลระบบ โดยไม่เรียกใช้งานไคลเอนต์ Riot ในฐานะผู้ดูแลระบบไปในเวลาเดียวกันอาจทำให้เกมของคุณทำงานผิดปกติได้
อัปเดตไดรฟ์เวอร์อะแดปเตอร์ของคุณ (Windows)
บางครั้งไดรเวอร์เครือข่ายที่ล้าสมัยอาจก่อให้เกิดปัญหาในการเล่นเกมได้ นี่คือวิธีอัปเดตไดรฟ์เวอร์ของคุณ
- กดปุ่ม Windows 🪟
- พิมพ์ device manager
- กด Enter
- ขยายหัวข้อ Network adapters
- คลิกขวาที่อะแด็ปเตอร์เครือข่ายที่คุณใช้งานอยู่
- คลิก Check for updates... หรือ Update driver
- หากคุณไม่มั่นใจว่าคุณเชื่อมต่ออะแดปเตอร์ไหนอยู่ ให้ลองอัปเดตไล่ตามรายชื่อดู
การแก้ไขปัญหา Firewall
Firewall มีไว้เพื่อเป้าหมายสองอย่าง - คือบล็อกการสื่อสารที่เข้ามาและการสื่อสารที่ส่งออกไป การบล็อกการสื่อสารที่เข้ามาป้องกัน "แฮ็กเกอร์" จากด้านนอกไม่ให้เข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยมากพวกนี้จะเข้ามาโดยการใช้ช่องโหว่ในระบบการจัดการหรือโปรแกรมที่ใช้บ่อย ๆ
Firewall โดยส่วนมากถูกสร้างมาเพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากตัวพวกเขาเอง ซึ่ง Firewall จะทำหน้าที่นั้นโดยการบล็อกการเชื่อมต่อที่ส่งออกไป การเชื่อมต่อที่ส่งออกไปจะเปิดโดยโปรแกรมที่ทำงานอยู่ในระบบของคุณ โปรแกรมนี้มักจะไม่เป็นอันตราย ตัวอย่างเช่น เว็บเบราว์เซอร์ เกม และโปรแกรมส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีที่เปิดการเชื่อมต่อขาออก
ทั้งนี้เนื่องจากไฟร์วอลล์ของคุณอาจปิดกั้นความสนุกของคุณอยู่ ดังนั้นนี่คือวิธีมอบบัตรผ่าน VIP ให้กับเกม:
อัปเดต Firewall ของคุณ
เราได้ติดต่อผู้ผลิตไฟร์วอลล์จำนวนมากเพื่อระบุว่าเกมเป็นเกมที่ไม่เป็นอันตราย และเพิ่มข้อยกเว้นให้กับเกมโดยอัตโนมัติ มีความเป็นไปได้ที่ Firewall ของคุณต้องทำการอัปเดตเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดจากผู้สร้างก่อน เพื่อใช้งานข้อยกเว้นเหล่านี้
โปรดเข้าไปยังเว็บไซต์ฝ่ายช่วยเหลือของผู้ให้บริการ Firewall ของคุณสำหรับไดรเวอร์และอัปเดตล่าสุด โปรดทราบว่า Firewall บางตัวต้องใช้การสมัครสมาชิกที่ยังไม่หมดอายุในการรับการอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
การปิดใช้งาน Windows Firewall ของคุณ
วิธีการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและง่ายดายที่สุดก็คือการถอนการติดตั้งและปิดการใช้งาน Firewall ของคุณชั่วคราว
- กดปุ่ม Windows 🪟
- พิมพ์ Control Panel
- กด Enter
- คลิก System and Security
- คลิก Windows Firewall
- คลิก Turn Windows Firewall on or off (คุณอาจต้องใส่รหัสผู้ดูแลระบบที่ขั้นตอนนี้)
- เลือกตัวเลือก Turn off Windows Firewall ที่อยู่ใต้ Network Location แต่ละอัน
⚠️การปิดใช้งาน Firewall ควรใช้เพื่อจุดประสงค์ในการแก้ปัญหาเท่านั้น
เพิ่มข้อยกเว้นให้กับ Firewall ของคุณด้วยตนเอง
นี่คือรายชื่อ path ที่คุณต้องเพิ่มในรายชื่อข้อยกเว้นใน Firewall ของคุณ:
- C:\Riot Games\League of Legends\LeagueClient.exe
- C:\Riot Games\League of Legends\LeagueClientUx.exe
- C:\Riot Games\League of Legends\LeagueClientUxRenderer.exe
- C:\Riot Games\League of Legends\Game\League of Legends.exe
- C:\Riot Games\Riot Client\RiotClientServices.exe
- C:\Program Files\Riot Vanguard\vgc.exe
- C:\Program Files\Riot Vanguard\vgm.exe
- C:\Riot Games\VALORANT\live\VALORANT.exe
- C:\Riot Games\VALORANT\live\ShooterGame\Binaries\Win64\VALORANT-Win64-Shipping.exe
- C:\Riot Games\Riot Client\RiotClientServices.exe
- C:\Program Files\Riot Vanguard\vgc.exe
- C:\Program Files\Riot Vanguard\vgm.exe
- C:\Riot Games\LoR\Live\Game\LoR.exe
- C:\Riot Games\Riot Client\RiotClientServices.exe
- C:\Riot Games\2XKO\Live\Lion.exe
- C:\Program Files\Riot Vanguard\vgc.exe
- C:\Program Files\Riot Vanguard\vgm.exe
มีจำนวนชนิดและเวอร์ชั่น Firewall นั้นมีแตกต่างกันมากมาย ซึ่งการจะพูดถึงรายละเอียดในการตั้งค่าสำหรับแต่ละ Firewall นั้นอยู่นอกเหนือขอบเขตของบทความนี้ คุณอาจต้องติดต่อผู้สร้าง Firewall ของคุณเพื่อตั้งค่าข้อยกเว้นสำหรับเกมอย่างถูกต้อง
โดยทั่วไป กระบวนการนี้ต้องทำสามขั้นตอน:
- คลิกขวาที่ Firewall จากแถบ System ของคุณ
- ไปยัง Options หรือ Settings
- หาแถบบน Exceptions\Allowances\Applications
- เพิ่มแต่ละ path จากด้านบน ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้มอบ Full Access หรือการตั้งค่าที่เท่าเทียมกันไว้ด้วย
การถอนการติดตั้ง Firewall จากบุคคลที่สาม
เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์เหล่านี้ให้ครบถ้วนในระหว่างขั้นตอนนี้ ในบางครั้ง Firewall จะยังบล็อกการเชื่อมต่ออยู่แม้ว่ามันจะถูกปิดใช้งานไปแล้ว เมื่อคุณพบสาเหตุของปัญหาแล้ว คุณสามารถติดตั้ง Firewall เหล่านี้ใหม่อีกครั้ง และตั้งค่าให้อนุญาตเครือข่ายการเชื่อมต่อของเกมอย่างถูกต้อง
การ Port Forwarding
ทำไมต้องกำหนดเส้นทางพอร์ตด้วยตัวเอง?
บางครั้งพอร์ตที่จำเป็นต้องใช้ในการยอมรับการเชื่อมต่อจากเซิร์ฟเวอร์เกมนั้นอาจจะถูกปิดด้วยค่าเริ่มต้นของเราเตอร์ หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คุณจะต้องกำหนดเส้นทางพอร์ตด้วยตัวเอง
การเชื่อมต่อจากเครือข่ายที่ถูกจำกัด?
หากคุณกำลังเชื่อมต่อจากเครือข่ายที่จำกัด เช่น มหาวิทยาลัย สถานที่ทำงาน หรือสถานที่สาธารณะ คุณจะต้องส่งพอร์ตด้านล่างให้กับผู้ดูแลระบบเครือข่ายของคุณเพื่อให้เขานำทางพอร์ตให้กับคุณ ส่งคำร้องหาเรา หากผู้ดูแลระบบของคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นที่ 1: การหา Default Gateway และที่อยู่ IP ภายใน
- กดปุ่ม Windows 🪟 + R
- พิมพ์ cmd
- กด Enter เพื่อเปิด Windows Command Prompt
- พิมพ์ ipconfig ใน Command Prompt
- กด Enter
- คุณควรจะเห็นรายการข้อมูลปรากฏขึ้นตรงหน้าคุณ เขียน Default Gateway และที่อยู่ IPv4 ของคุณเอาไว้ก่อนเพื่อใช้ในขั้นตอนถัดไป
- คลิกไอคอน Apple ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ
- เลือก System Preferences...
- ดับเบิลคลิกที่ Network
- เลือกการเชื่อมต่อที่เปิดใช้อยู่ด้านซ้าย
- คลิก Advanced... ที่มุมล่างขวา
- คลิกแถบ TCP/IP
- ที่อยู่ Default Gateway ของคุณจะอยู่ข้าง Router: และที่อยู่ IP ภายในของคุณจะอยู่ข้าง IPv4 Address:
ขั้นตอนที่ 2: ติดต่อผู้ผลิตเราเตอร์ของคุณเพื่อกำหนดค่าการ Port Forwarding
การ Port Forwarding อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก ทางที่ดีที่สุดคือการติดต่อผู้ผลิตเราเตอร์ของคุณ เพื่อสอบถามวิธีการเข้าถึงหน้าการกำหนดค่าของเราเตอร์
รายชื่อพอร์ตที่กำหนดเส้นทางไปถึงได้:
| Game Client | 5000 - 5500 UDP, 7000 - 8000 UDP |
| ตัวช่วยแพตช์และ Maestro | 8393 - 8400 TCP |
| PVP.Net | 2099 TCP |
| PVP.Net | 5223 TCP |
| PVP.Net | 5222 TCP |
| การเชื่อมต่อ HTTP | 80 TCP |
| การเชื่อมต่อ HTTPS | 443 TCP |
| Spectator Mode | 8088 UDP และ TCP |
| เสียงในเกม | เลือก 50 พอร์ตจาก 1024 - 65000 |
รายชื่อพอร์ตที่กำหนดเส้นทางไปถึงได้:
| Game Client | 5000 - 5500 UDP, 7000 - 8000 UDP |
| ตัวช่วยแพตช์และ Maestro | 8393 - 8400 TCP |
| PVP.Net | 2099 TCP |
| PVP.Net | 5223 TCP |
| PVP.Net | 5222 TCP |
| การเชื่อมต่อ HTTP | 80 TCP |
| การเชื่อมต่อ HTTPS | 443 TCP |
| Spectator Mode | 8088 UDP และ TCP |
| เสียงในเกม | เลือก 50 พอร์ตจาก 1024 - 65000 |
ยังพบปัญหางั้นเหรอ?
หากทั้งหมดด้านบนไม่สามารถแก้ได้ โปรดติดต่อเข้ามาเราด้วยการส่งคำร้องมาที่ฝ่ายช่วยเหลือผู้เล่น โปรดแนบไฟล์บันทึกของคุณมา แล้วเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา และทำให้คุณกลับเข้าไปเล่นเกมได้!